แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ธรรมชาติ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ธรรมชาติ แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ยามเช้า.




ยามเช้า.

เริ่มเช้าสวย  แดดทแยง  แสงผ่องใส
เป็นริ้วไร  สีสด  รดฟ้าสวย
เป็นคลื่นพลิ้ว  ปลิวส่าย  ร่ายระรวย
ช่างแสนสวย  จริงหนา  ฟ้าของวัน

มาส่งความ  คิดถึง  ให้เพื่อนเพื่อน
แล้วย้ำเตือน  วันนี้  ยังมีฝัน
ตื่นมารับ  แสงอรุณ  อุ่นอีกวัน
ตื่นรับขวัญ  วันใหม่  ในแสงทอง

ส่องมาเถิด  แดดเช้า  เคล้าความคิด
ปลุกจริต  ให้ตื่น  พื้นแนวผ่อง
แดดเช้าเช้า  มาเย้า  ฟ้าสีทอง
เหมือนมาส่อง  โลกหล้า  พารื่นใจ

ส่งสีแสง  สดสวย  สำรวยชื่น
ส่งความรื่น  ชื่นใส  คราหวั่นไหว
ส่งความรัก  ความฝัน  ผ่านเส้นใย
ส่งสายใจ  มาแนบ  แอบอุราฯ

~paer-aksorn~


วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2554

หลงมายา.





หลงมายา.

เสียแรงเรา ครองตัว มิมัวหมอง
ดั่งแว่นทอง ส่องสว่าง กลางเวหา
ดุจดั่งไข่ ฝังไว้ ในศิลา
ยังอุตส่าห์ ซ่อนเร้น เห็นเรือดไร

มิติรัก กว้าง ยาว ลึก นึกเรียนรู้
เมื่อมีคู่  แต่ไร้รัก  ถูกผลักใส
ให้เคว้งคว้าง  ว้างเวิ้ง  เปิดเปิงไป
...ให้หวั่นไหว  เหว่หว้า  ชีวาวาย

ผ่านคืนหม่น  มืดมิด  ฟ้าปิดม่าน
แสนร้าวราน  เดือนดับ  ลับลอยหาย
ผ่านมาแล้ว  วันหมอง  เคยผ่องพราย
ตะวันฉาย  หลังเหลี่ยม  เยี่ยมเมฆา

เหนื่อยหน่ายไหม?  เธอจ๋า  คราแอบซ่อน
เหน็บหนาวไหม?เมื่อเธอต้อง  เล่นซ่อนหา
นานแค่ไหน  ที่เรามี  เรือนกายา
เสน่หา  เก็บซ่อน  มิหอนกราย

ข้ามตัวตน  พ้นว่าง  เข้าทางโศก
วิปโยค  โขกร่าง  ที่คว้างหาย
ครวญคำคร่ำ  ดื่มด่ำ  ช้ำในกาย
เจ็บไม่หาย  คล้ายหยิกเล็บ  เจ็บถึงทรวง

~paer-aksorn~


วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ตะวันเยือนฟากฟ้า



แดดทอจับ พยับเมฆ เสกสร้างสี
เมื่อม่านคลี่ สีแสง แต่งเติมสาน
ห่มทิวไม้ สดสวย ท่ามป่ากานท์
ดุจสายธาร รินไหล ใจรื่นรมณ์

ยินเสียงนก เจี้ยวแจ้ว แว่วขับขาน
เปรียบใดปาน เมืองแมน แดนสุขสม
ดั่งเพลงพิณ บรรเลง อีกเพลงพรหม
ให้ภิรมณ์ สุขล้ำ เกินจำนรรจ์

พอบ่ายคล้อย ลอยเคลื่อน เลื่อนปุยเมฆ
เหมือนโดนเสก ด้วยมนต์ ดลสร้างฝัน
ร่วมร้อยรส บทกลอน กันทุกวัน
คล้ายความฝัน ช่วงวัน ฉ่ำฤทัย


พอยามเย็น แดดอ่อน ตะวันล้า
ที่เคยจ้า กลับลด แสงเลือนหาย
มีแต่ลม พัดพลิ้ว หวาบหวิวใจ
ชื่นแช่มใส ระรื่น ชื่นในทรวง

สายลมหนาว พัดต้อง ละอองหยาด
ชุ่มเกินคาด ให้สะท้าน เป็นบางช่วง
หนาวเหน็บรุม รอนร้าว ปักเข้าทรวง
ในทุกห้วง เวลา คราลมไกวฯ
~paer-aksorn~




วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2554

~ ดวงประทีป ~






ณ คืนเพ็ญ  พิสาขะ  กระจ่างฟ้า
ทั่วแหล่งหล้า สว่างแจ้ง ด้วยแสงส่อง
จันทร์จำรัส    รัศมี    เป็นสีทอง
ทอละออง  อาบทั่ว   ทั้งหัวใจ

ใจอันเหนื่อย   อ่อนหล้า  เวียนว้าวุ่น
ใจอันขุ่น  ข้องหมอง  มิผ่องใส
ใจดวงเดิม   เริ่มรู้สึก  สำนึกใน
ใจประภัสสร์  ผ่องพิไล ไม่ปรวนแปร


รู้และเห็น ความเป็นไป อยู่ในโลก
รู้ทุกข์โศก  ทั้งปวง  ดั่งบ่วงแห
รู้ระลึก  ตรึกตรอง  อย่างถ่องแท้
รู้แน่วแน่  แน่นหนัก  ประจักษ์จริง ฯ

~ paer-aksorn ~

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

~ หนาวน้ำค้าง~






สายหมอกขาว พราวพร่าง น้ำค้างหนาว
ในหุบเขา ที่ห่างไกล ใกล้ฟ้าสาง
นกร้องเพลง เสียงเจื้อยแจ้ว อยู่ริมทาง
 วันรุ่งราง พลางร้องเตือน เพื่อชีวี

เพลงขับขาน สัญญาณเตือน เพื่อนทั้งหลาย
ภารกิจ อีกมากมาย ในวันนี้
เส้นทางเดิน นั้นยาวไกล หลายวิธี
ชีวิตนี้ ไม่ยั่งยืน แค่คืนวัน

เมื่อฟ้าสาง ส่องสว่าง ทางเดินไป
สายลมไหว โบกโบยพัด เพื่อผ่านผัน
เมื่อทุกข์-สุข รักและชัง ยังคู่กัน
ดั่งดวงตะ-วันยังคู่ฟ้า ครารุ่งราง

เสียงนกร้อง เพลงปลุกใจ ให้รีบตื่น
เมื่อค่ำคืน นอนหลับฝัน เพื่อวันหวัง
ให้เราล้ม เพื่อจะลุก โดยระวัง
ตราบชีวิต ยังต้องยืน สู้ต่อไป.
~แพรอักษร~

วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เสียงที่มากับสายฝัน.



 
K.หวาน 

ค่ำคืนครวญขลุ่ยคลอล้อเสียงฝน
สอดจังหวะจะโคนพร้อมฝนหลั่ง
วิเวกหนาวราวรานผ่านฝากฝัง
นิ้วที่พร่างผ่านลมเพียงพรมใจ
.
ท่วงทำนองออดเอื้อนอยู่อ้อยอิ่ง
บางช่วงดิ่งต่ำตกระทกไห้
บ้างบางคราวเหมือนหนาวเหน็บเจ็บปวดใจ
เสียงขลุ่ยใครเป่าครวญหอมทวนลม


♥ paer-aksorn ♥
กบเขียดร้องเสียงประสานขานกลอนกาพย์
ชวนซึมซาบเสียงใสให้สุขสม
บัวระบำระบัดใบให้ชื่นชม
โชยกลิ่นพรมแผ่วหอมย้อมหทัย.

รักแท้ใช่เพียงฝันต้องฟันฝ่า
อุปสรรคนานาอย่าหวั่นไหว
แม้มั่นคงก้าวย่างสู่ทางไกล
ย่อมคว้าได้สักครั้งที่หวังปอง

อาจเหน็จเหนื่อยเมื่อยล้าคราทุกข์เศร้า
หรือเงียบเหงาเศร้าซมระทมหมอง
แต่ย่อมมีวันที่ฟ้าสีทอง
ให้ได้ครองสุขสมภิรมย์มาน


K.หวาน


ใช่เดียวดายในสายทางอักษร
อัถรสบทกลอนล้วนอ่อนหวาน
มาเมียงมองผองเพื่อนร่วมจดจาร
เพียงพอผ่านบางเวลาน่าภิรมย
.
หลายรสถ้อยดั่งพลอยพราวอยู่พร่างฟ้า
กลบแสงเดือนดาราพร่างห่างขื่นขม
ิยินรู้สึกลึกเฉือดใจไหวอารมย์
้้ร้อยคำคมสมคำครวญช่างป่วนใจ

แพรอักษร

เสมอสรวงด้วยน้ำอมฤต
หยาดเพริศแพร้วเพียงแก้วใส
ธารพิสุทธิ์โปรยปรายและสายใย
ฉ่ำละมุนชื่นละไมเลี้ยงแผ่นดิน

k.หวาน

ได้ชุ่มชื่นฟื้นชีพจนชุ่มฉ่
เก็บกอบจำภาษาสวรรค์วรรณศิล
์อันพรูพร่างพราวพรายร่ายกวิน
พรมแผ่นผืนธรณินประดับประดา

  
k.เกริก
 
เหนือทุ่งพราววาวทุ่งฝัน
เลื่อมลายชั้นฉากเช้าเงาแสงจ้า
โรยหยาดเม็ดเกร็ดระรานตระการตา
ต่างภาษาค่ากวีแต้มชีวิต
 
กับเพื่อนในปลูกกลอน.

วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เพื่อนโลกไซเบอร์



มองผ่านจอ คอมมา พาใจคิด
ที่เราติด ต่อผ่าน จอคอมนี้
ใช้อักษร กลอนกานท์ ขานวจี
ถ้อยวลี มีหวานหวาน นานนับเดือน

เสียงผ่านสาย โทรหา นับไม่ไหว
หวั่นในใจ ไหวพร่าง มิรางเลื่อน
คือมิตรจิต ที่มี ในย้ำเตือน
คำว่าเพื่อน ยิ่งยง คงยาวนาน.

~ paer-aksorn ~

ครรลองชีวิต.


Love is like a star.
A star is just a small part of the sky.
Our faithful love
is also just a small part of our life.
There is not only one star
nor only one love to be stuck to.
When a love runs away from our life,
a new love can grow up in our strong heart.


ความรักเป็นดั่งดวงดาว
ดวงดาวเป็นเพียงส่วนหนึ่งของท้องฟ้า
ความรักที่เราศรัทธา
ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิต
ดวงดาวไม่ได้มีแค่ดวงเดียว
ความรักก็ไม่ได้มีแค่ครั้งเดียวให้ยึดติด
เมื่อรักร้าวลาร้างจากชีวิต
รักมีสิทธิ์เกิดขึ้นใหม่เมื่อใจพร้อม.

paer-aksorn

วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ริ้วเช้า...




กราว..น้ำค้าง   ยาวเหยียด   เสียดยอดหญ้า
ทั่วแผ่นฟ้า คราอรุณ    สมดุลย์แฝง
ดารดาษแต้ม  ยอดหญ้า ฟ้าจำแลง
โค้งริ้วแสง  แต่งแต้ม แย้มประกาย

กลั่นหยาดหยด ช่างงดงาม  ยามต้องแสง
ดุจแสดง ศาสตร์ศิลป์ ก่อนลับหาย
มองสะท้อน ดั่งเกร็ดแก้ว พรรณราย
คอยทักทาย ให้รื่นรมย์ พรมดวงใจ

พลิ้วเริงร่าย น้ำค้าง  สล้างพิศ
ดั่งประดิษฐ์ หยดเรียงราย พรายสดใส
เริงรำฟ้อน เกาะรับ  จับกิ่งใบ
เช้าแจ่มใส ไหวระยับ ประดับวัน

อีกสายไหม ใยเกลียว ร้อยเกี่ยวล้อม
คล้ายพยอม ขอแต่งแต้ม แย้มรังสรรค์
มองผิวเผิน เพลินจิต ติดเกี่ยวพลัน
ร้อยความฝัน วันนี้ มิวางวาย

~ paer-aksorn ~

วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

บัญชาจากสวรรค์

วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2554

จันทร์รำพึง

 
 
..เป็นเพราะคำบัญชาจากสวรรค์
หรือเพราะความผูกพันที่สรรณ์สร้าง
เท้าทั้งคู่ที่ต่างเดินคนล่ะทาง
ใจสองดวงเคยเหินห่างมาร่วมใจ

..กว่าจะพบทักทายได้รู้จัก
กว่าจะรู้สึกนึกรักกว่าจะใกล้
กว่าจะห่วงหาห่วงหวงและห่วงใย
แต่ล่ะนาทีที่ผ่านไปช่างงดงาม

..วันที่ฟ้าสีชมพูเพื่อคู่รัก
อุปสรรคอาจน้อยใหญ่ให้ฝ่าข้าม
เป็นคนรักที่หัวใจได้ติดตาม
อยู่เคียงข้างทุกยามด้วยความดี

..คงเพราะคำล้ำค่าคำว่ารัก
ที่สลักลงบนใจไม่จากหนี
มากกว่าคำบรรยายที่เคยมี
ตั้งแต่นี้ ตลอดไป...ใจเดียวกัน

7  มีนาคม   2554

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

วนเวียนชีวิต






*ว่ายเวียนเปลี่ยนผันผ่านวันเก่า
ทุกข์และเศร้าเหงาหมองนั่งร้องไห้
ว้าวุ้นเวิ้งว้างร้างเงาใคร
ลืมใจหล่นห่างหายที่รายทาง

*ทอดเท้าก้าวย่างมาทำหน้าที่
เพื่อชีวีตำนานการสรรค์สร้าง
ฤดูกาลคลี่เคลื่อนฝันเลือนลาง
เสกสรรค์เส้นทางที่ร้างไกล

*paet-aksorn*

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2554

โป๊ยเซียน ดอกสวย.




*โอ้! โป๊ยเซียน เพียรออกดอก บอกความหมาย
ไม่เดียวดาย มีหลายดอก ออกเป็นช่อ
แม้มีบ้าง เหี่ยวห่างเฉา เพราะเฝ้ารอ
กิ่งเสริมต่อ ก่อเกิดใหม่ ให้ลมไกว

*ดุจมนต์ตรา มหาเวทย์ ประเภทหนึ่ง
สร้างโลกฝัน หวานซึ้ง พึงหลงไหล
สงวนดอก ออกหนาม ย้ำเตือนใจ
หากคลังไคล้ ใฝ่หา น้ำตาเล็ด!


*ก่อนถึงช่อ ดอกสวย ซ่อนด้วยหนาม
ดอกยิ่งงาม หนามยิ่งคม ชม..อย่าเด็ด!
แม้ตาดี ยังมีพลั้ง เลือดหลั่ง..เช็ด!
หากตาบอด จอดสะเด็ด ! เล็ดน้ำตา

*มองโป๊ยเซียน แรกแย้ม แซมสุดสวย
กิ่งระรวย รายชื่น รื่นบุปผา
สีสันสวย ปราศราคี มีราคา
มากมายหา พาเพลิน เจริญใจ


*วนวียนดู ความงาม ยามเกลื่อนกลาด
สีฉูดฉาด สะดุดตา น่าพิสมัย
ชูกิ่งก้าน ขยันออก ทั้งดอกใบ
เพริศพิไล นักหนา คราได้ชม

*มวลไม้ดอก งอกงาม ตามธรรมชาติ
ดูดารดาษ เพลินตา พาสุขสม
ยามเพ่งพิศ พินิจแนบ แอบนิยม
ช่างเหมาะสม นวลตา น่ารักจริง


*แบ่งสวนสวย จัดเน้น เป็นโซนใหม่
งามวิไล ยามนั่งชม ลมกวัดกิ่ง
ช่อดอกล้ำ งามเลิศ เพราเพริศพริ้ง
สวยสมสิ่ง ยิ่งทิพย์ นิพพิทาฯ

paer-aksorn 

วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ฉ่ำไอฝน



ฝนฉ่ำฟ้า  ฉ่าลง  ตรงภาคพื้น
พฤกษ์สดชื่น  เขียวชะอุ่ม  พุ่มไสว
อันน้ำฟ้า  หลั่งมา  เวลาใด
ย่อมยังความ  ชื่นใจ  ให้ปวงชน

เหมือนน้ำใจ  เมตตา  อารีจิต
เพียงน้อยนิด  ปรอยไป  คล้ายสายฝน
ใครได้รับ  ต่างระรื่น  ชื่นกมล
ความทุกข์ทน  แทบคลาย  สลายไป

หยาดฝนร่วง  หล่นกราว  จากราวฟ้า
โปรยปรายพา  หยาดละออง  ของน้ำใส
สาดกระเซ็น  โปรยปราย  คล้ายน้ำใจ
ที่หลั่งไหล  จากเบื้องบน  สู่คนดี

.. พวงเม็ดฝน  เรียงร้อย  ดั่งสร้อยสาย
เป็นประกาย  แก้วเกล็ด  เพชรหลากสี
ชะโลมลง  ซอกกลีบสด   งดงามดี
ก่อนจะหาย   กลายกลับ   ลับสายตา.


~paer-aksorn~

วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

ดอกไม้ใจ



ดอกไม้ใจ ใครหนาว กลางราวป่า
เย็นลมพัด กราวมา พาหวั่นไหว
หมอกบางเบา คลี่คลุม ทุกพุ่มใบ
ดอกไม้ใจ เหน็บหนาว ยิ่งร้าวราน

หยิบเมฆขาว ราวฟ้า เอามาห่ม
หนาวเย็นลม ทั่วหล้า ทุกย่อมย่าน
เอาใบไม้ มาคลุม สุมดวงมาน
ยิ่งสะท้าน กมล อยู่คนเดียว

จะยืนหยัด ฝืนใจ เพียงใดหนอ
ใจทดท้อ เพียงรอ ในป่าเปลี่ยว
หมดทะนง องอาจ ไม่ปราดเปลียว
แม้เพียงเสี้ยว ภาวะ แห่งทรนง

ดอกไม้ใจไหวพลิ้ว ทั่วทิวป่า
เย็นลมพา พัดปลิว ลอยลิ้วส่ง
เป็นดอกไม้ แห่งไพร ในป่าพง
มาตกลง กลางป่า ณ ลานดิน.

~ paer-aksorn ~


ดอกไม้ใจ ให้ฉันเห็น เป็นดอกรัก
จะฟูมฟัก รักถนอม ไม่ยอมสิ้น
แม้ใครเปรียบ เทียบราคา ค่าเพียงดิน
ชั่วชีวิน ไม่สิ้นรัก ภักดีคง

ที่เคยช้ำ ทำให้เจ็บ เก็บไปทิ้ง
ลืมทุกสิ่ง ทิ้งไป ไม่ไหลหลง
เก็บเอาดอก ไม้ใจ จากไพรพง
มาปักลง ตรงกลาง หว่างฤดี

ให้ตะวัน จันทรา นภากาศ
ดารดาษ ดาวเด่น เป็นสักขี
จะปกป้อง คุ้มครอง ผองภัยมี
ตราบชีวี นี้พร้อม น้อมสู่ดิน

จะประดับ จับกอ ช่อดอกไม้
ตกแต่งไว้ ในสวน ชวนชื่นกลิ่น
ให้ระบือ ลือนาม งามโสภิณ
ทั่วทุกถิ่น ดินแดน แสนชื่นเอย.

>>คนเหงาที่เฝ้ารอ<<