แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ~ ห้วงคำนึง ~ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ~ ห้วงคำนึง ~ แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2555

*หยุดแล้วนะใจ*



*ยังคงเดินทางตามหาฝัน
ใต้เงาจันทร์ใต้กลีบเมฆขาว
ใต้ปีกผีเสื้อกลิ่นไอคาว
สองมือเปล่าเท้าที่มั่นคง

*ฟังเสียงเรไรไหล่ทางฝัน
ยิ้มอวดจันทร์ที่ลานหญ้าหลง
ฟังดอกไม้ หัวใจ ไหวลง
ยามเดินตรงเส้นทางที่เจอ

*อยากจะหยุดที่เธอนะใจฉัน
กี่คืนวันมั่นคงอยู่เสมอ
เมื่อความรักยิ่งใหญ่เลิศเลอ
เมื่อรักเธอฉันก็เจอรักแท้

*หยุดลงแล้วนะใจฉันตอนนี้
ตรงที่มีรักมั่นคงรอแน่แน่
ยอมเป็นทาสรักเธอมิผันแปร
พร้อมดูแลซึ่งกันตลอดกาลฯ

*paer-aksorn*

วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2555

♥ สายใจใน...สายใย ♥




♥ สายใจใน...สายใย ♥

♥ กราบเท้าขอบพระคุณ พ่อและแม่
ทั้งสองท่านมั่นเพียรแต่ แนะนำหนุน
ทุกสิ่งสรรพ์ชั่วชีวีที่เกื้อกูล
สอนลูกให้ใฝ่ค้ำคูณ คุณความดี...

♥ ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนวันคลอด
ประมาณสิบเดือนตลอดจนถ้วนถี่
ความลำเค็ญทรมานกายใจมี
ทั้งหมดนี้เหลือสุดที่จะ พรรณนา

♥ แรกกำเนิดเกิดกายในครรภ์แม่
นั้นยากแท้เปรียบน้ำค้างกลางใบหญ้า
เช้าเป็นหยดน้ำใสวับระยับตา
ตกสายพลันเลือนลาแห็งเหือดไป

♥ล่วงถึงเดือนที่สองต้องเปลี่ยนแล้ว
เจ้าลูกแก้วจากของเหลวเป็นก้อนไข
เดือนที่สามตามอาการต้องเป็นไป
ทั้งวิงเวียนคลื่นไส้ให้หม่นมัว

♥เดือนที่สี่ครรภ์ที่มีเริ่มปรากฏ
ร่างกายแม่เปลี่ยนแปรหมดทุกส่วนทั่ว
เลือดในครรภ์พัฒนามารวมตัว
แขน ขา หัวสร้างให้เป็นเห็นกายคน

♥เดือนที่ห้าเห็นได้ชัดถนัดแล้ว
เจ้าลูกแก้วในครรภ์มั่นฝึกฝน
ขยับกายซ้ายขวากล้าซุกซน
แม่สุขล้นสัมผัสรู้อยู่ภายใน

♥เดือนที่หกประสาทหกเริ่มรับรู้
จมูก ปาก ตา หู คิด ตจะ ไหว
สัมผัสรู้รส ร้อนหนาวเจ้าดิ้นไป
เชื่อมสายใยแม่ลูกผูกสัมพันธ์

♥เดือนที่เจ็ดเวลาล่วงมาพอ
กระดูก สามร้อยหกสิบข้อต่อยึดมั่น
รูขุมขนอีกแปดหมื่นสี่พัน
ก็รวมกันเป็นกายหมายมั่นคง

♥ เดือนที่แปดล่วงมาตั้งตานับ
ประสาท สมอง สนองรับ สดับส่ง
เกิดสติ แลความคิดจิตประจง
เก้าทวารบังเกิดตรงครบในครรภ์

♥ครั้งล่วงมาถึงเดือนที่เก้า
สิ่งที่เจ้าดูดซึมไปเลี้ยงกายนั่น
คือ อาหารที่แม่กลืนสารพัน
ล้วนคัดสรรกินเพื่อลูกไปปลูกกายฯ

*เจ้าชีวิต  ลิขิตความ  นามว่าแม่* 

วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

~ยามค่ำคืน~




ค่ำคืนนี้มีจันทร์ส่องเต็มฟ้า
มีนภาสวยใสในคืนค่ำ
มีดารามากระพริบวิบวิบพรำ
มาเหนี่ยวย้ำดวงเดือนเป็นเพื่อนเรา

ในราตรีมืดสนิทชิดขอบฟ้า
ขอแววแห่งดวงตาอย่าหมองเศร้า
มองความมืดมุ่งหาฟ้าสีเทา
ให้แววเศร้า จากดวงตาพาส่องทาง

ให้ทิวา สว่างทิพย์ ระยิบระยับ
อย่าคืนกลับ กลางใจ ใสสว่าง
ให้ลมเย็น จากโพ้นเขา พัดเบาบาง
พัดผ่านใจ แผ่วจาง เพียงบางเบา

ลอยไปสู่นิรันดร์ ที่ฝันถึง
ลอยไปกับ ความคำนึง เหนือขุนเขา
ทุ่งดอกไม้ ที่นั้น ความฝันเรา
ซึ่งประตู แห่งเหย้า รอเราเยือน.

~paer-aksorn~


วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555

~ ดาว ~




~ ดาว ~

ฟ้าสวย.....ด้วยดาว
ดาวสวย.....ด้วยฟ้า
คืนค่ำ.....ล่ำลา
ตาสวย.....เพียงใด

หยาดเรียง.....เคียงดาว
แวววาว.....พราวใส
เอ่อท้น.....ล้นใจ
ลูปไล้.....นัยน์ตา

วันนี้.....พรุ่งนี้
บางที.....ที่ฟ้า
อาจหล่น.....พ้นตา
ใส่ตระกล้า.....ความจำ

ขออ-......ธิษฐาน
ตราบกาล.....นานย้ำ
มิตรภาพ.....ลาภงาม
ดื่มด่ำ......ฉ่ำใจ

ฟ้าสวย.....ด้วยดาว
วาวเพียง.....เคียงไหน
เอารัก.....ปักไว้
ตรงไหน .....ในนั้น

ฟังนะ.....จ้ะมิตร
ชีวิต.....ติดฝัน
เกิดลูก.....ผูกพัน
จอมขวัญ.....กัลยา

ขอให้.....ได้โชค
หมดโศก.....โรคพา
วันหน้า.....ถ้ามา
มองฟ้า.....ด้วยกันฯ

~ paer-aksorn ~

วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2555

~อิงอุ่น~




~อิงอุ่น~

เอนแอบอิง  พิงอกอุ่น  หนุนซบบ่า
ท่ามแผ่นฟ้า  กลางสวนใจ  ในความฝัน
กระจ่างใส  ใจก็ว่าง  ระหว่างวัน
เป็นมิ่งขวัญ  ลานบ้าน  สานร้อยใจ

ซึ้งสำหรับ  ดวงกมล  ใครคนหนึ่ง
จากผู้ซึ่ง  เคยครอง  เสียงร้องไห้
ฉันเคยหวัง  ว่าวันหนึ่ง  จะห่างไป
จะมีไหม?  วันนั้น  ฉันไม่ร้อง

จะไม่มี  ดวงดอกไม้  ที่ราโรย
รอปัดโปรย  ร่วงหล่น  บนเราสอง
จะไม่มี  ดอกดวงใจ  ที่ใครครอง
ส่งเสียงร้อง  ล่องตามสาย  คล้ายจ้องรอ

ก็นี่แหล่ะ  หากความฝัน  ของฉันพลาด
ฉันก็อาจ  จะเสียใจ  อีกหลายต่อ
ร้องเพลงรัก  ส่งสลับ  กับเสียงคลอ
ฉันกล้าพอ  ที่จะเสี่ยง  เพียงอีกวัน

จึงอยากเขียน  กลอนรัก อีกสักหน
สำหรับคน  ที่มาใหม่  ในความฝัน
และเป็นหวัง  ที่หวานชื่น  ของคืนวัน
เป็นนิรันดร์  ของชีวิต  ที่คิดมีฯ

~paer-aksorn~

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2554

จะ มี เธอ เป็น มากกว่า แฟน




จะ.ไม่ทุกข์..จะไม่ร้อง..จะไม่บ่น
จะ.สู้ทน..ทำสิ่งใหม่..ใจคิดฝัน
จะ.พยายาม..ทำสิ่งดี..คุณอนันต์
จะ.สร้างฝัน..สดใส..ในสักครา

มี.ใจรัก..พักตร์เธอ..เสมอจิต
มี.มิ่งมิตร..แสนดี..ที่ใฝ่หา
มี.เพื่อนรัก..พักตร์พ้อง..ทั่วนภา
มี.จันทรา..คู่เดือน..มีเพื่อนใจ
                     
เธอ.คือคน..คนนั้น..ที่ฉันฝัน
เธอ.คือคน..ที่มา..ทำหวั่นไหว
เธอ.คือคน..ที่รัก..ฉันปักใจ
เธอ.คือคน..ที่ใช่..ฉันเฝ้าคอย

เป็น.ความฝัน..ในความจริง..ที่แสนหวาน
เป็น.อ้อยตาล..หวานอยู่..มิรู้หงอย
เป็น.ความรัก..ภักดี..มิเลื่อนลอย
เป็น.ดาวน้อย..ในใจ..ไหวไหวทรวง

มากกว่า.ดาว..เดือนดิน..สิ้นรอยโศก
มากกว่า.แสง..ส่องโลก..มิหวงห่วง
มากกว่า.ใน..รอยรัก..ปักแดดวง
มากกว่า.ห้วง..เมฆา..นภาพราย

แฟน.ฉันนั้น..น่ารัก..น่าถนอม
แฟน.ฉันต้อง..น่าบูชา..มิน่าหน่าย
แฟน.ฉันน่า..ศรัทธา..ทั่วหทัย
แฟน.ฉันน่า..เลื่อมใสกว่า..ใครทุกคน.

 ~paer-ak-sorn~

วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2554

~ รำพึงหานำพาฝัน ~






มองดูเดือน  ดวงดาว  คราวหลับไหล
ในห้วงใจ สะท้าน ท้าลมหนาว
ในความเหงา ลมเร้า พัดแผ่วเบา
ให้ความเศร้า เคล้าเคลื่อน เยือนเมฆา

 อยู่ที่ไหน ยามนี้ เธอคนนั้น
คนที่ฉัน เฝ้าคอย ละเมอหา
คิดถึงเธอ ทุกครั้ง ยามหลับตา
แม้ตื่นมา ยังเพ้อ เป็นชื่อเธอ

~ paer-aksorn ~

วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

~ จันทร์เสี้ยวเกี่ยวใจ ~

 




ค่ำคืนนี้ ฟ้าแขวน พระจันทร์เสี้ยว
หรือฟ้าเปลี่ยว ร้าวเหงา เปล่าเหว่ว้า
เหมือนเธอฉัน ห่างไกล จนลับตา
แต่ทว่า ใจชิด จิตพร่ำบอก

ขอนั่งดู เสี้ยวจันทร์ ตะวันตก
มองดูนก เสี้ยวฝั่ง ตะวันออก
เฝ้าคิดถึง รำพึงหา เป็นระลอก
ล้นกระฉอก ออกไป ส่งให้เธอ

ระยะทาง ห่างไกล ไปเท่าไหร่
ส่งรักไป ให้ถึง คะนึงเหม่อ
ถึงรักห่าง ไม่ทำ รักฉันเบลอ
ความเป็นเธอ กระจ่าง ทั้งดวงใจ

ในคืนที่ ฟ้าห้อย ร้อยจันทร์เสี้ยว
เธอเปล่าเปลี่ยว คนเดียว ใช่หรือไม่
อยากแขวนเธอ คนเดียว เกี่ยวกลางใจ
เก็บเธอให้ ลึกสุด ก้นบึ้งทรวง.

~ paer-aksorn ~


วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

มาลัยฝากรัก



มาร้อยถักดวงดาวที่พราวแสง
ร้อยด้วยแรงแข็งขันวันสดใส
ใส่ชะลอมเกี่ยวก้อยร้อยมาลัย
มาส่งให้แด่เธอที่เพ้อหา

ร้อยสายรุ้งแสนสวยรวยเสน่ห์
เป็นสายเร่รักลอยร้อยบุพผา
ปักสวยสวยด้วยดาวรื่นชีวา
แล้วส่งมาให้ใจฉันนั้นถึงเธอ

กลีบดอกอ่อนซ้อนเรียงร่วมเคียงฝัน
รอคืนวันจอมขวัญอ้อนละเมอ
ด้วยยังห่วงเฝ้าภักดิ์รักปรนเปรอ
เสมือนเพ้อเผลอไผลลูบไล้ชม


มานั่งร้อยสร้อยรวงพวงไม้หอม
หมายถนอมออมรักมิผลักไส
แล้วเก็บมอบปลอบขวัญอย่าหวั่นใด
ยามห่างไกลได้เห็นเช่นตัวแทน

~ paer-aksorn ~

วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

~ รำพึง ...ฝากคิดถึง ~




ฉันฝากลม  บอกไป  ว่าใจเหงา
ทุกข์ทนเศร้า  เหงาจิต   คราคิดถึง
ให้หวลคิด   จิตฝัน  ย้ำคำนึง
ส่งคิดถึง  ผ่านฟ้า  ยามราตรี

ใจหนอใจ   ใยจึง  มาท้อถอย
ฝันที่คอย  พลอยเลือน   มลายหนี
เหมือนสิ้นแรง  แข่งขับ   ปรับชีวี
คล้ายโลกนี้  มีแต่หมอง   นองน้ำตา

มองท้องฟ้า  สวยสด  ไยอดเศร้า
ความหงอยเหงา  ทดท้อ  ต่อปรารถนา
ฝากดาวเดือน   ทอแสง  แยงนภา
ที่ก้มหน้า  พาร่ำร้อง  หมองระทม


ทำไมหนอ  การรอ  ต่อบางสิ่ง
นานเข้าจริง  ยิ่งห่างไกล  ไป่สุขสม
สิ่งที่หวัง  ผุพังเปื่อย   เรื่อยอารมณ์
ร้องไห้ห่ม  จมทุกข์  ยุคโรยรา

ดั่งเธอฉัน  หมั่นหมาย  ใจสมาน
สืบผสาน  สอดแทรก  แรกหรรษา
เกี่ยวสายใย   วาดหวัง   กาลเวลา
ทอประกาย   เจิดจ้า  ฟ้างดงาม

 จึงวอนลม  ฝากใจ   ที่ใสสด
สิ้นหมดจด  เกินใคร  ยากไถ่ถาม
ชื่นชมเชย  เฉลยคำ  ร่ำนิยาม
หวังฟ้างาม   เห็นใจ  เมื่อไกลกัน

  เหลียวชายตา   คราจ้อง   มองฟ้าใส
ถึงกายไกล  ใจอยู่  เคียงคู่ฝัน
เสียงเจื้อยแจ้ว    แว่วส่ง   ตรงผ่านจันทร์
บอกคำขวัญ   ว่าร้าว   หนาวภวังค์ฯ


paer-aksorn ~

..ลบเงาใจ.




♥ไม่อยากเป็น คนดื้อ คอยตื้อรัก
แต่สุดหัก ใจห่าง ให้ว่างปล่อย
แม้สัมพันธ์ เมินหมาง ลางเลื่อนลอย
ใจดวงน้อย ยังมั่น ฝันถึงเธอ


♥ใยใครหนอ มาก่อไฟ ให้ใจฉัน
สุมรุมจน ใจหวั่น ทำฉันเผลอ
ทุกค่ำคืน วันผ่าน ครวญพร่ำเพ้อ
เป็นคนเซ่อ แถมบ้า เพราะว่าใคร


♥ ครั้งตื่นมา พาใจ ให้ไหวหวั่น
พอสิ้นวัน เหงาเหงา เร้าฟักใฝ่
ดูเธอทำ ฉันหม่น แถมจนใจ
พิษรักร้าย ยิ่งนัก รักทรมาน


♥ไม่อยากเป็น คนซื่อ ตามตื้อรัก
ใจอยากพัก ความคำนึง อันซึ้งหวาน
อยากจะลบ ใจขม ที่ซมซาน
ให้เมื่อวาน วันนี้ ไม่มีเธอ

♥ ในความมืด  ชืดชา ไม่น่ารัก
ดวงใจภักดิ์  รักดำรง  คงเสนอ
อยู่ต่างแดน แสนไกล หมายพบเจอ
คงต้องเก้อ  ฝันคว้าง  อยู่ข้างเดียว.

~

วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ใครสักคน..



 อยากมีใครสักคนที่เข้าใจ
                                ถึงชีวิตที่ไม่มีใครแบบนี้
                                มีความเหงาเป็นเพื่อนทุกวินาที
                                วันเวลาที่แสนดีไม่มีเลย

                                       เหงา...จะทำยังไง
                                สุดท้าย...ต้องนั่งทำใจเฉยๆๆ
                                มองเข็มนาฬิกาปล่อยเวลาให้ล่วงเลย
                                เหงาเหมือนเคย...แต่ยังรอคนที่เข้าใจ.