วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554

ตำนานรักผาแดง - นางไอ่ ตอนที่ ๗ โดย. พี่กิตติธร



...ตอนที่ ๗


.....และเชียงเหียนหลานข้าอย่าลืมเชิญ
หากหมางเมินเคยรักจักหน่ายหนี
รีบส่งสาส์นเชิญไปในธานี
ให้ท่านท้าวบุรีนี้โดยไว

ฝ่ายที่สองให้ช่วยอำนวยการ
คอยต้อนรับขับขานในงานใหญ่
เตรียมต้อนรับแขกเมืองเรืองไผท
จงอย่าให้ขาดตกบกพร่องเชียว

จัดสถานลานพิธีให้ดีเลิศ
อย่าให้เกิดแคลนขาดพาหวาดเสียว
จัดทุกสิ่งให้อุดมดูกลมเกลียว
ผู้มาเที่ยวต่างเมืองจักเลื่องลือ

และฝ่ายสามวางผังเมืองให้เรืองฤทธิ์
ให้บรรดาปัจจามิตรคิดนับถือ
จัดเวรยามตรวจไว้ให้พอมือ
ใครอย่าถือก่อการอันน่ากลัว

ท่านจงรีบจัดแจงตกแต่งเถิด
ให้ดีเลิศตามกล่าวเจ้าเหนือหัว
งานที่ตรัสจัดวางอย่างลงตัว
ไม่ต้องกลัวขัดเคืองจากเมืองใด

ด้วยเคยจัดทุกปีไม่มีขาด
หมู่อำมาตย์ยิ้มย่องจิตผ่องใส
งานทั้งมวลไม่ยากลำบากใจ
จัดเตรียมได้เรียบร้อยคอยเวลา

☼.....กาลเวลาผกผันถึงวันที่
ค่ำสิบสี่มาเยือนเดือนวิสาข์
ก่อนวันงานวิสาขะจะบูชา
ชาวพาราตื่นเต้นอยากเห็นงาน

โดยเฉพาะบั้งไฟที่จะมีแข่ง
คงสำแดงสามารถอย่างอาจหาญ
บั้งไฟของแต่ละองค์คงสะคราญ
อลังการสวยสง่าคงน่าดู

ก่อนวันงานค่ำสิบสี่จึงมีแห่
คนมาแลบั้งไฟแข่งแต่งสวยหรู
ประดับสีหลากหลายให้น่าดู
ให้เลิศหรูน่าชมสมเจ้าเมือง

เสียงเพลงขับเถิดเทิงเซิ้งบั้งไฟ
แล้วแห่ไปทั่วเขตคามตามย่างเยื้อง
ซึ่งแสดงแต่งประกอบไปรอบเมือง
หลากหลายเรื่องสารพันจะสรรมา

บ้างแสดงลามกตลกกัน
บ้างล้อเลียนคนสำคัญเที่ยวสรรหา
เอามาล้อมาเล่นเป็นขวัญตา
ชาวประชาสนุกสนานสำราญใจ

บ้างแสดงวิถีของชีวิต
ต่างสรรคิดท่วงท่าเอามาใช้
การทอดแหหาปลาทำท่าไป
ทำพืชไร่นาสวนล้วนแสดง

บ้างแสดงสามารถนาฏศิลป์
ศิลปินรำร่ายไม่หน่ายแหนง
เอาดนตรีปี่พาทย์มาดัดแปลง
มาแสดงให้เห็นเป็นบุญตา

มีทั้งของเจ้าธานีที่จัดแจง
มาแสดงให้ดูว่าหรูหรา
และต่างเมืองที่เชิญดำเนินมา
ต่างสรรหาขบวนแหนจนแน่นเมือง

อันบั้งไฟของพระยาเจ้าธานี
ประดับสีดัดแปลงทั้งแดงเหลือง
ลวดลายศิลปกรรมประจำเมือง
จรัสจรุงรุ่งเรืองกว่าเมืองใด

แห่แหนเสร็จเก็บงำประจำที่
พลับพลาไชยในธานีที่เตรียมไว้
แล้วรวบรวมสำรวจตรวจบั้งไฟ
ที่ท้าวไท้แต่ละองค์ได้ส่งมา

เข้าแข่งขันชิงชัยในคราวนี้
ปรากฏมีหกเจ้าเท่านั้นหนา
มีสงยางของพระอนุชา
ฟ้าแดดเจ้าพระยามาก่อนใคร

เจ้าเชียงเหียนนัดดาก็มาพร้อม
หลานเจ้าขอมพระองค์ทรงผ่องใส
เจ้าศรีแก้วท่านมาเกือบช้าไป
แต่ทันได้ร่วมแห่แต่ยังวัน

ทางเมืองหงส์เจ้าหงสาก็มาเอง
ไม่หวั่นเกรงกลัวใครในแข่งขัน
ทรงชื่นชอบกอปรชัยในประชัน
อีกท้าวท่านทองพันชั่งที่มั่งมี

ผู้เป็นเจ้าเมืองทองครองพารา
ก็ทรงมาชิงชัยในครานี้
เสด็จถึงชทิตาแต่ราตรี
ก่อนวันที่แห่แหนแน่นนคร

บั้งที่หกนั่นหรือคือเจ้าบ้าน
ที่จัดงานใหญ่โตสโมสร
รวมเสร็จสรรพนับได้ไม่ขาดตอน
มีเพียงห้านครที่จรมา

ส่วนผาแดงนั่นไซร้ไม่เห็นเงา
มิมาเข้าพิธีนี้เลยหนา
จนถึงกาลเย็นย่ำค่ำเวลา
ไม่เห็นหน้าราชาแห่งผาโพง

ภายในวังการะเกดเขตบุรี
เจ้าไอ่ศรีดวงใจให้เหวงโหวง
เมื่อสนมแจ้งเรื่องเมืองผาโพง
ไม่ออกโรงมาแสดงแข่งบั้งไฟ

คนรายงานว่ามากมวลขบวนแข่ง
แต่ผาแดงไม่เห็นเป็นไฉน
ในขบวนรื่นเริงบันเทิงใจ
ไร้บั้งไฟผาแดงแรงฤทธี

องค์ไอ่คำน้ำตาหนอเอ่อคลอเบ้า
มือและเท้าเยียบเย็นเป็นซากผี
พระพี่เลี้ยงรีบพะนอไม่รอรี
เข้าประคองทันทีที่เป็นลม

หายาหอมยาลมยาดมวุ่น
ที่หอมกรุ่นชื่นอุรามาปฐม
พยาบาลให้คลายหายเป็นลม
ทั้งปลอบให้คลายระทมตรมฤทัย

ปลอบว่าคงมีเหตุอาเพศนั่น
ท้าวผาแดงจึงไม่ทันกาลสมัย
ลองดูท่าทีก่อนผ่อนพระทัย
อรุณสมัยท่านคงมาไม่ช้านาน

ฟังคำปลอบสนมนางที่หวังดี
ให้นึกถึงไมตรีที่แสนหวาน
เพิ่มความหวังเต็มทรวงแม่ดวงมาลย์
รัตติกาลผ่านไปคงได้เจอ

พระยาขอมยังประทับรับแขกเมือง
ที่ยาตรเยื้องกันมาหาเสมอ
บางท้าวท่านไม่ค่อยพบประสบเจอ
จึงเสนอราวเรื่องคุยเฟื่องกัน

ขณะนั้นนายทะเบียนเขียนบัญชี
ส่งรายชื่อปีนี้ที่แข่งขัน
ว่ามีมาห้าเมืองเรื่องสำคัญ
ทันใดนั้นจอมราชามีอาการ

ท้าวท่านโกรธเจ็บใจให้ผาแดง
หวาดระแวงถึงธิดาน่าสงสาร
มาหลอกรักลูกเราเจ้าคนพาล
พระเหงื่อกาฬเต็มหน้าพาเป็นลม

นางจามปารีบรับจับประคอง
ทั้งหันมองเรียกพลางนางสนม
เอายาหอมน้ำผ้าและยาดม
ประคบประหงมจนตื่นฟื้นฤดี

บ่นพึมพำร่ำหาธิดาตน
จิตกังวลลูกรักจักหมองศรี
ใครช่วยบอกลูกยาของข้าที
ท้าวผาแดงไม่ดีที่ไม่มา

มันไม่รักลูกยาอย่าเสียใจ
ไม่เป็นไรลูกหนอพ่อจะหา
ยังชายอื่นหมื่นพันอนันตา
ที่จะมาคู่ควรนวลอนงค์

ตั้งสติคิดเห็นเป็นแม่นมั่น
ลุกขึ้นพลันประกาศไปไม่ใหลหลง
ต่อหน้าเจ้าพาราทั้งห้าองค์
ว่าจะลงเดิมพันวันพรุ่งนี้

<มีต่อ>

ไม่มีความคิดเห็น: