วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554

ตำนานรักผาแดง-นางไอ่ ตอนที่ ๓ โดย. พี่กิตติธร



ตอนที่ ๓

อาบน้ำเสร็จมองหาอาหารใหม่
มะเดื่อใหญ่ใกล้ทางข้างถนน
ราวกับว่าเทพประทานบันดาลดล
ล้วนด้วยผลสุกย้อยห้อยตามกิ่ง

เจ้าบุญโปงรี่ปีนกินมะเดื่อ
กินไม่เผื่อแผ่ไปให้ยอดหญิง
แม้นางร่ำบอกผัวรัวระวิง
ว่าหิวจริงโปรดช่วยน้องด้วยซี

โปรดโยนลูกมะเดื่อมาเผื่อด้วย
พี่ไม่ช่วยน้องคงม้วยในคราวนี้
น้องไม่เคยปีนป่ายในชีวี
โปรดปราณีขอมะเดื่อมาเผื่อกัน

ฝ่ายเจ้าผัวกินอยู่แต่ผู้เดียว
หาได้เหลียวแลเมียที่เสียขวัญ
กินจนอิ่มเต็มกายสบายมัน
แล้วก็พลันไต่ตรงลงที่ดิน

เจ้าคำหอมอับจนสุดทนหิว
ใจหวิวหวิวแค้นตัวผัวใจหิน
มัวงอนง้อต่อไปไม่ได้กิน
ต้องจำจินต์ปีนขึ้นฝืนจำนง

ตั้งแต่เกิดไม่เคยด้นขึ้นต้นไม้
แต่เพราะหิวจนไส้จะเป็นผง
รีบเก็บกินพอได้คลายหิวลง
อิ่มอนงค์เย็นย่ำค่ำพอดี

ครั้นปีนลงยังโคนต้นมะเดื่อ
สุดเหลือเชื่อเจ้าใบ้คนใจผี
เอากิ่งไม้หนามไหน่ไว้คอยที
มิให้มีทางลงตรงที่โคน

ส่วนตัวมันหนีหายไปอื่นแล้ว
ทิ้งเมียแก้วเนื้อกลอยไว้ห้อยโหน
ทำกับนางช่างใจบาปแสนหยาบโลน
แล้วเผ่นโผนหนีหายไปลับตา

เจ้าเก็บของแล้วข้ามห้วงน้ำไป
ไม่สนใจเมียไหนจะไห้หา
ทิ้งคำหอมคู่กันภรรยา
แล้วแรมลาจากไปไม่ไยดี

ฝ่ายคำหอมกว่าจะปลงลงถึงพื้น
แสนกล้ำกลืนหนามไหน่ต้องให้หมองศรี
ครั้นมองหาผัวกูคู่ชีวี
ไม่เห็นเงาสามีที่รอบกาย

นางคาดเดาเขาคงข้ามห้วงน้ำแล้ว
ผัวคงแจวหลีกลี้หลบหนีหาย
ทิ้งตนอยู่คู่พงเปลี่ยวสุดเดียวดาย
พร้อมกับอันตรายรอบกายนวล

คิดจะข้ามน้ำไปไฉนนั่น
แสนหวาดหวั่นรวนเรจิตเหหวน
แม่น้ำใหญ่ไม่รู้ลึกตรึกคร่ำครวญ
เจ้าเรรวนไม่กล้าข้ามห้วงน้ำไป

ครั้นจะอยู่นั่งลงที่ตรงนี้
หวั่นฤดีสางเสือเหลือไฉน
ทั้งผีป่าบังบดโขมดไพร
หริ่งเรไรก้องพนาพาขวัญบิน

เสียงนกฮูกอีเห็นเป็นคราวครั้ง
กลัวจนหลั่งน้ำตาพาถวิล
เสียงส่ำสัตว์แมลงไพรที่ได้ยิน
นางหมดสิ้นหนทางก้าวย่างเดิน

นั่งซุกอิงโคนมะเดื่ออย่างเหลืออด
เศร้าสลดอ้างว้างสุดห่างเหิน
ไร้ที่พึ่งไร้ทางให้ย่างเดิน
ต้องเผชิญอันตรายในพนา

ลูกมะเดื่อหล่นใส่ใบไม้แห้ง
ตกใจแหยงขนชันขวัญผวา
ยิ่งดึกดื่นยิ่งเคว้งคว้างกลางพนา
ซุกกายาเบียดมะเดื่ออย่างเหลือทน

กอดห่อผ้าซุกไว้ให้แนบอก
หวาดวิตกดวงใจให้สับสน
ร้องจนน้ำตาแห้งสิ้นแรงทน
สุดอับจนชีวินสิ้นทางไป

กระพุ่มมือไหว้เจ้าเหล่าอารักษ์
ลูกกลัวนักท้อแท้สุดแก้ไข
ขอเมตตาท้าวท่านบันดาลไป
ให้ข้าน้อยปลอดภัยในชีวี

พระคุณพ่อพระคุณแม่จงแผ่ด้วย
โปรดมาช่วยประชุมคุ้มเกศี
ให้ปลอดภัยทั้งปวงล่วงราตรี
เป็นที่พึ่งลูกทีจากนี้ไป

☼....ในกาลนั้นพรานไพรใจฉกาจ
เดินเลาะลาดตรวจการณ์ลำธารใส
เที่ยวลัดเลาะทุ่งหนองลำคลองไพร
หาล่าสัตว์ทั่วไปในพนา

เลาะเลียบธารแอบดูหมู่สัตว์ส่ำ
อาจลงมากินน้ำค่ำค่ำหนา
เดินเงียบเงียบค่อยค่อยย่ำกล้ำกรายมา
จนเข้าใกล้กัลยาร้างสามี

ยินสะอื้นร่ำไห้ในไพรสณฑ์
นั่นเสียงคนนี่นาหรือว่าผี
ลองร้องเรียกออกไปกระไรมี
นั่นเสียงผีมาแกล้งจำแลงดล

หรือมนุษย์ผู้ใดกระไรเล่า
เสียงกระเส่าร่ำไห้ในไพรสณฑ์
สะอื้นอั้นตันใจในกมล
ผีหรือคนจงแจ้งแถลงมา

เจ้าคำหอมหวาดผวากายาสั่น
จู่จู่พลันมีเสียงทักกลัวนักหนา
พอกำหนดเที่ยงแท้แน่อุรา
นงพะงาจึงแจ้งแถลงความ

น้ำตาหลั่งดังว่าพระมาโปรด
รีบตอบโจทก์ลนลานเมื่อพรานถาม
ข้าเป็นคนจำพรากจากเขตคาม
เดินติดตามผัวไปในไพรพง

หวังจะได้เยี่ยมชานบ้านเมืองผัว
แต่กลับชั่วไม่สมหวังดังประสงค์
ผัวใจร้ายทิ้งข้าในป่าดง
จึงนั่งลงไหวหวั่นอันตราย

พรานฟังเรื่องทั้งหมดสลดยิ่ง
สงสารหญิงนงรามงามเฉิดฉาย
ขืนอยู่เดียวในพงคงต้องตาย
ด้วยสัตว์ร้ายไข้ป่าบรรดามี

นางวอนขอพ่อพรานท่านจงช่วย
สงเคราะห์ด้วยเถิดหนาในครานี้
โปรดช่วยข้าข้ามพ้นชลธี
ตามสามีต่อไปอาจได้ทัน

นายพรานไพรเหลือบแลแม่เนื้ออ่อน
เอาเถิดหล่อนข้าช่วยได้ไม่เดียดฉันท์
เจ้าไม่ต้องครวญคร่ำร่ำรำพัน
มาเถิดเราไปกันในทันที

เจ้าเดินตามหลังข้าจะพาข้าม
ต้องเดินตามโขดดอนไปในห้วงนี้
มีทางตื้นเดินได้อยู่ข้ารู้ดี
จักปลอดภัยชีวีมีข้านำ

นางเดินตามพรานไพรผู้ใจบุญ
ที่ค้ำจุนช่วยได้ไม่ตอกย้ำ
ส่วนสามีใจไม้ไส้ระกำ
ทิ้งให้ช้ำทำให้ปวดรวดร้าวใจ

นายพรานพาข้ามน้ำตามประสงค์
เจ้ายืนงงเคว้งคว้างไปทางไหน
พรานมองภาพลำเค็ญสุดเห็นใจ
แต่ทำได้เพียงชี้ทางให้นางเดิน

บอกตรงนี้มีถนนหนทางเดียว
ไม่แยกเลี้ยวตรงไปไม่ขัดเขิน
มีแต่เส้นทางนี้ที่คนเดิน
คิดประเมินผัวนางคงห่างไป

เจ้ารีบเดินต่อไปคงได้ทัน
พออาศัยแสงจันทร์นั่นไฉน
ในเส้นทางพงพีจากนี้ไป
ข้าขอให้มีโชคพ้นโศกพลัน

เจ้าสาวน้อยตั้งใจได้เด็ดขาด
ลดความหวาดกลัวภัยได้มหันต์
ตัดสินใจเป็นไรก็เป็นกัน
จะด้นดั้นกลางพนาตามสามี

<มีต่อ>

ไม่มีความคิดเห็น: