แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ปรัชญาธรรมชาติ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ปรัชญาธรรมชาติ แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

~ ชื่นเช้า ~




ชื่นเช้าราวฟ้าแสนงดงาม
หมอกเลือนตามน้ำค้างต้องแสงผ่องใส
มายิ้มทักทายยวนรวนรื่นใจ
มากล่าวขานหวานขับให้รับตะวัน

แสงส่องฟ้าพาระรื่นชื่นดวงจิต
มาสะกิดให้ใจแจ่มแต้มรอยฝัน
ยินเสียงนกร้องเพลงบรรเลงกัน
หันมองมันโก่งคอขันคลอเคียง

มาจำนรรจ์กันทุกเช้าเฝ้าคอยคู่
พอเห็นอยู่ก็บินพร้อมส่งเสียง
ช่างน่ารักนักหนายามนกเรียง
แต่เป็นเพียงแค่ช่วงเช้าจึงเฝ้ามอง.

~paer-aksorn~


วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

~ แนวไพรสน ~



~ แนวไพรสน ~

ความมืดดำโรยตัวทั่วแผ่นฟ้า
ฟ้าก็มีดาราฉายแสงส่อง
ส่องย่ำรุ่งสุริยาพาเรืองรอง
รองแสงส่องงามตาพาสุขใน

ในสายน้ำไหลรินหาเหือดแห้ง
แห้งลมแรงใบไม้ลู่พลิ้วไหว
ไหวโหมซัดเข้าฝั่งยังไม่ไกล
ไกลปลาว่ายเล่นคลื่นตื่นฝูงชน

ชลธารเย็นชื่นระรื่นพัก
พักแหล่งหลักผันผ่อนตอนแอ่งล้น
ล้นเต็มสายธาราหนาทุกหน
หนธารล้นเอ่อนองท้องลำไพร

ไพรแนวหินถิ่นป่าน่าดูสัตว์
สัตว์ฝูงสัตว์มีชมร่มป่าใหญ่
ใหญ่น่ะมี เก้ง ชะนี ลิง ค่าง ข้างป่าใน
ในฝูงใหญ่คือม้าลายทายทักชม

ชมผืนป่าคราสัตว์จร มานอนพัก
พักแหล่งกักแนวไพรใจสุขสม
สมแดนดินถิ่นฐานละลานพรม
พรมเสกสมห่มป่าน่าเกรงกลัว.

~ paer-aksorn ~



วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

~ไพรพนา~






~ไพรพนา~

ท่ามแนวไพร  ใหญ่กว้าง  ทางขึ้นเขา
เป็นร่มเงา       เท่าที่เห็น  เป็นเนินผา
เกาะเป็นกลุ่ม   ลุ่มลึก      นึกอยากมา
เที่ยวชายป่า    ริมโค้ง      ตรงฟ้างาม

มองยอดหญ้า   ป่าเขียว  เรียวไสว
มองยอดใบ      หญ้าอ่อน  ย้อนสีหวาม
เป็นทิวทัศน์      จัดเรียง     เพียงนิยาม
ช่างแสนงาม     อร่ามตา       เมื่อมายล

มีหมอกหนา     คราเช้า   เร้าใจตื่น
เป็นความรื่น     ชื่นจิต     ชิดไพรสน
เมื่อหมอกบาง   ทางเรียบ  เปรียบกมล
เราทุกคน         สุขฤทัย    ใจแจ่มบาน

โอ้...แนวไพร   ไหวหนา   พาเสกสรรค์
ไม้พืชพรรณ    ผ่านตา    คราเยี่ยมผ่าน
อดเชยชม       บ่มชิด     ติดตานาน
ขอเรียกขาน    ตำนานไพร  ในแดนดอย.

~paer-aksorn~





วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555

แสงธรรม-แสงใจ





ยามเมื่อแสงสีทองส่องทาบ
ทะเลสาบส่งแสงสีแจร่ม
เป็นแสงทองผ่องผุดค่อยบานแย้ม
เสกสรรค์แสงแต้มลงสู่วารวัน

ถอยสักก้าวก็จะเห็นทะเลกว้าง
เห็นท้องฟ้าสดใสสว่างถึงสวรรค์
ถอยเพื่อตัดสละอัตตาผ่าทางตัน
เสียเหลี่ยมนั้นไม่ต่ำเตี้ยเท่าเสียใจ

~paer-aksorn~

วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

~มัน..คืออะไร?~






มองดูท้องฟ้าสายน้ำ
ปล่อยวางดวงใจไม่สับสน
ค้นหาความจริงกับตัวตน
ในโลกที่ร้อนรนเพื่ออะไร?

เหมือนเขาใดไร้ถ้ำจำสิงห์หมาง
ต้องแรมร้างมิมีที่อาศัย
ถ้ำแห่งสิงห์สิงสู่อยู่ที่ใด
รู้แก่ใจใครกล้ามาระราน

สระโหดไร้ไหนหงส์เหินลงสู่
หงส์ควรคู่ธารใสให้สนาน
ระเริงกายว่ายวนชลธาร
ความชื่นบานเกิดก่อหงส์พอใจ

บรรดานกกกจับกับพฤกษา
มวลพฤกษ์พุ่มชอุ่มหนาเกาะอาศัย
จะโผผละละวางไม้บางใบ
พรากทิ้งไปแหล่งอื่นที่ชื่นชม

เหมือนผู้หญิงทิ้งร้างเหินห่างคู่
ละร้างพรากจากชู้คู่เหมาะสม
ระอาชั่วตัวช้าไม่น่าชม
เลิกนิยมเลวร้ายผู้ชายทราม

สาเหตุมีชี้ชัดเห็นประเด็นชอบ
หาคำตอบไตร่ตรองอย่ามองข้าม
รักอยู่ที่มีผลตนเห็นงาม
เพียงชั่วยามเห็นสิ่งตนชิงชัง

หยุดพักไว้ใจหวนแล้วครวญคิด
อันชีวิตเราต้องการสิ่งมุ่งหวัง
ครั้งถ่าโถมโหมชีวิตสุดกำลัง
คราหมดหวังใครหนอจะพอใจ

โอ้..ละหนอคืนวันที่ผันผ่าน
ครั้งอ่อนหวานอาวรณ์แลอ่อนไหว
ยังซับสุขซุกซอกทั้งนอกใน
ยังละไมละมุนสุขทุกคืนวัน

มีเวลาเหลือเท่าไรอย่าไปนับ
กี่กาลกัปป์แค่มายาพาเราฝัน
เพียงซึ้งซาบตราบเท่าเราคู่กัน
เสมือนจันทร์คู่ฟ้านภากาล

ยังเย็นพร่างกระจ่างแจ่มแต้มรอยยิ้ม
ยังพรายพริ้มให้อิ่มอกสะทกหวาน
ยังเอื้อโอบดับร้อนที่รอนราน
ให้พ้นผ่านสู่ฝั่งฝัน...วันที่มี

มองดูฟ้าและสายน้ำในรอยทาง
พร้อมจะวางทุกสิ่งที่วิ่งหนี
ออกค้นหาสัจธรรมตามที่มี
รัก โลภ โกรธ หลง นี้หรือ...คืออะไร?

~paer-aksorn~



วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

ดอกบัวบุญ



ดอกบัวบุญผุดพร่างกลางบึงใส
งามวิไลน่าถนอมกล่อมดวงขวัญ
ดอกแก้วผ่องพิลาสท่ามดวงตะวัน
ดวงดอกขวัญแสนงามท่ามธารใจ

ดังดอกไม้ในจินต์ถวิลหวัง
 ประดุจดังพุทธรรมงามไสว
เป็นบัวธรรมสีทองผ่องอำไพ
เป็นบัวใจใสส่งดำรงธรรม

เผยเกษรเหลืองอร่ามงามสว่าง
กลีบดอกพร่างสล่างตึงไร้บอบช้ำ
แผ่สลอนลอนพวงดั่งดวงธรรม
 นวลอร่ามสวยแจ่มแย้มฤดี

นำบัวบุญบูชาหน้าพระพุทธ
 ช่างวิสุทธิ์ด้วยศรัทธาในหน้าที่
 แปลงสินทรัพย์เป็นบุญญาบารมี
 เว้นวรรคทุกข์ชีวีทุกวี่วัน  (ทุก - ทุกข์)

 ผลแห่งทางสร้างธรรมบำรุงศาสน์
ย่อมสามารถนำทางสร้างสุขสันต์
ก่อเกิดผลชนสุขทุกทั่วกัน
ทุกโทษนั้นไกลห่างภัยร้างรา.

~paer-aksorn~


วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554

สักวาหน้าหนาว



สักวาห้าหนาวช่างหนาวนัก
ขาดไอรักมาห่มใจให้หนาวหาย
อันหนาวกายห่มผ้ายังพอคลาย
แต่หนาวใจแทบตายใครบรรเทา

ลมเหมันต์พัดผ่านมานานครั้ง
ยินสำเนียงเสียงฟังช่างเหงาหงอย
จะมีใครบ้างไหมคล้ายกับเรา
ต้องทนเศร้าหนาวใจไร้รักเอยฯ

~paer-aksorn~


วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554

รักธรรม



^*^ ใจที่เคย..อยู่อย่าง..ไร้ความหมาย
วันนี้กลาย..เป็นเธอ..เดินร่วมฝัน
กำลังใจ...เราสอง...ตรองถึงกัน
เป็นของขวัญ...ล้ำค่า...นะคนดี

หยอดกระปุก...แต่ไม่เต็ม กำลังใจ
ที่ส่งให้..ด้วยรัก..ภักสุขี
มีความฝัน..ร่วมปัน..สรรชีวี
ค่านาที....แต่ละวัน...นั้นสำคัญ

ดวงราตรี..ที่หลอม..ย้อมฟ้าใส
เพราะอะไร...ถึงเก็บได้...ในช่วงฝัน
จากวันนัน จนวันนี้....กี่ช่วงวัน
คนสำคัญ....ของหัวใจ...นั้น..คือธรรม^^!!+

~paer-aksorn~

วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ระฆังลม.




เพียงแวะฟัง ระฆังลม พรมใบไม้
เพียงสักเสี้ยว เลี้ยวไป ไกลความสุข
เพียงมุ่งหวัง ทางสงบ หลบภัยยุค
เพียงความสุข ซุกอยู่ตาม ท่ามแนวไพร

ค้นพบแล้ว แว่วธรรม โน้มนำจิต
ค้นพบแล้ว เข็มชีวิต นิมิตใหม่
ค้นพบแล้ว ทางสายกลาง อันอำไพ
ค้นพบแล้ว ดอกไม้  ท่ามกลิ่นควัน

ความไพเราะ รื่นไหล จากใจจิต
คือชีวิต สดสวย ด้วยรอยฝัน
ในทำนอง ของกาละ สละพลัน
กับเสียงสั่น แห่งความเงียบ เลียบเมฆา

สงบฟัง อย่างตั้งใจ ใต้ต้นไม้
สงัดไพร จนได้ยิน เสียงเพรียกหา
สติเกิด กำเนิดจิต พิศเพ่งพา
สะเทือนฟ้า สดับไหว ในภวังค์ฯ

<<<>>>

สละเวลาทบทวนให้ถ้วนถี่
ในหนึ่งปีผิดพลาดขนาดไหน
ในหนึ่งปีมีถูกบ้างเป็นอย่างไร
ความเข้าใจในตนเอง เก่งจริงเอย.

อดีตมีคุณค่า
ผู้พิจารณาใคร่ครวญ.

~paer-aksorn~

วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2554

คติเตือนใจ



เราจะเป็นอิสระมากขึ้น
ถ้าเราหยุดคิดว่า
คนอื่นจะคิดถึงเราอย่างไร
การที่เรามัวแต่กังวลถึงคำพูด
และความคิดของคนอื่น
ทำให้เราคิดไปเองว่า
เราตกเป็นเหยื่อของพวกเขา
ซึ่งที่จริงแล้ว
ขณะนั้นแหล่ะที่เราตกเป็นเหยื่อความคิดของตนเอง
ความคิดที่เป็นลบ
และ มีแต่บั่นทอนจิตใจตนเอง...

วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554

อย่าตามใจตัว....




พุทธศาสน์     มรดก    สุดล้ำค่า
ที่ปู่ย่า    ของเรา    เฝ้าหวงแหน
แต่บัดนี้    มีภัย    จากทั่วแดน
คอยดูแคลน    เหยียบย่ำ    ทำไม่ดี

ตามใจตัว     เพราะใจ     ชอบใฝ่บาป
และยุ่งยาก     สารพัด     น่าบัดสี
เช่น ความโลภ     โกรธ หลง    บ่งอัปรีย์
ล้วนแต่ชี้     ช่องทำ     ให้ต่ำทราม

บ้างเสียทรัพย์     รับทุกข์     เข้าคุกขัง
บ้างเซซัง     กลางถนน    คนเหยียดหยาม
บ้างตีด่า     ฆ่าฟัน     มันมั่วกาม
ล้วนแต่ตาม     ใจตน     ทุกคนไป

เหตุฉะนั้น     หมั่นห้าม     อย่าตามจิต
คอยตามติด     รักษา     อย่าไถล
จักลุล่วง    สวัสดี     ไม่มีภัย
ทุกข์กษัย     สงบสุข     ทุกวันเอยฯ

~paer-aksorn~

วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554

มิตรธรรม.




เนิบเนิบเนือยเนือยแต่เรื่อยไหล
หนทางกว้างไกลอยู่ในจิต
ควบขี่ชีวาทั่วสารทิศ
เพียงหมายนฤมิตรพบมิตรธรรม


ทุกคนต้องพ้องพานการคบเพื่อน
เหมือนร่วมเรือนร่วมสุขทุกเช้าค่ำ
หากเลือกดีมีเพื่อนเหมือนมีธรรม
ย่อมจะนำชีวิตถูกทิศทาง.

~paer-aksorn~

วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

วันเวลา






วันเวลา พร่างพราว หนาวน้ำค้าง
เวียนเวิ้งว้าง เปล่าเปลี่ยวใจ ในวิถี
เสมือนใคร มากล่าวรส พจน์วจี
คล้ายวาณี เคลื่อนฝัน อันตระการ

เหมือนสดับ รับฟังเสียง แต่เพียงฝัน
ความแปรผัน เปลี่ยนไป ไม่ประสาน
นิรมิตเพ้อ เพียงผู้เดียว เที่ยวโจษจาน
ตราบนิรมาณ สิ้นสุด หยุดคร่ำครวญ

หนาวน้ำค้าง  พรมพร่าง  ระหว่างฟ้า
หนาวน้ำตา  ล้าโศก  ซอกซุกส่วน
รักเอย..ใย  แฝงเล่ห์ ให้เรรวน
ช้ำ..มิควร  เคียงข้าง จะห่างคลาย

มโนน้าว   ท้าวร่าง พราวร้างรูป
คล้ายควันธูป  ลอยคว้าง   ก่อนจากหาย
เศษเพียงเสี้ยว  ซากนิด   ชิดพรากกาย
สิ้นสลาย  หายลับ  ไปกับลม

ยินเพียงเธอ   บอกคลาย  สลายแล้ว
ฤทัยแป๋ว  หล่นร่วง  ทรวงขื่นขม
มันปล๊าบแปล๊บ   แนบใจ  ไหวระทม
คิดห้อมห่ม  พรมร่าง น้ำค้างโรย

เธอทิ้งให้  ใจครวญคร่ำ  ร่ำวิโยค
ยามลมโบก  โดนช่อแก้วโชยแผ่วโหย
หอมรวยรื่น  ชื่นละออ  อวลโบกโบย
หรือลืมโรย  รอยเคยหวาน  ที่ผ่านพ้น

 เมื่ออาวรณ์  รอนในทรวง  ผูกบ่วงรัก
ก็ยากหัก  ปักอาลัย   แม้ใจหม่น
กลับเก็บกลืน   ฝืนใจเศร้า    เหงาท่วมท้น
เฝ้าเวียนวง   พ้นพะวง   หลงคว้าไขว่

ให้ว้าวุ่น กรุ่นอารมณ์ แม้ข่มห้าม
กลับล่วงลาม ท่ามล่ามขึง ตรึงรอยไหว
แน่นเกินต้าน-ทานได้ ในสายใจ
หลงอยู่ใน แวววาบไหว จากนัยน์นั้น

เช่นนี้แล้ว จะหมายใด ใคร่รู้นัก
มุ่งในรัก  ปักอาลัย  ไร้ไหวหวั่น
กับท่าที  เผยยื้อย่าง  อย่างดื้อรั้น
เพื่อรั้งขวัญ นั้นอีกดวง ผูกบ่วงจอง

จริงหรือไม่  นัยแอบแฝง  ที่แสร้งเร้น
มิวายเว้น  เช่นถ้อยขับ  ให้จับต้อง
จริงหรือไม่  ในทรวงนั้น  ฝันร่วมพ้อง
เพื่อผูกสอง   ดวงใจภักดิ์  ด้วยรักแท้.

 ~ paer-ak-sorn ~



วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เพียรสร้างกำลังใจ.




คนส่วนใหญ่ลืมนึกถึงความสุขใกล้ตัว
ซึ่ง สัมผัสได้ตลอดเวลา แต่กลับวิ่ง
ไปหาความสุขนอกตัว หรือมองความสุข
ในอนาคตซึ่งไม่รู้จะมาเมื่อไหร่

... สองข้างทางในยามจอแจก็งดงามได้
ผู้คนมากมายก็อาจเป็นภาพเขียที่มีชีวิต

การซาบซึ่งกับการได้รับสิ่งดีๆๆหรือ
การนั่งลงบันทึกสิ่งดีๆทุกๆวัน
นึกขอบคุณคนแปลกหน้าที่เคยอาทร

เหล่านี้...เป็นความสุขที่เราสามารถ
สัมผัสได้ในทุกวินาที...

วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

คู่ความหมาย

ชีวิตเหมือน  เรือน้อย  ล่องลอยอยู่
ต้องต่อสู้   แรงลม ประสมคลื่น
ต้องทนทาน หวานสู้อม  ขมสู้กลืน
ต้องจำฝืน  สู้ภัย  ไปทุกวัน
(บทกวีที่จุดประกาย).
                                                                            .....




อันธงชัย ไว้ประกาศ  เกียรติราชรถ
ย้ำปรากฏ ให้เห็น เป็นเครื่องหมาย
ผงาดสู้ ดูงดงาม ยามท้าทาย
คือความหมาย ให้ตระหนัก ศักดิ์แห่งตน

อันกองเพลิง เริงแรง โชติแสงฉัน
ย่อมมีควัน มืดมัว ไปทุกหน
คือเครื่องหมาย แห่งเพลิง เริงถกล
เกิดก่อผล ให้ยอมรับ ไฟกับควัน

อันราชา สง่าใน ราชไอศูรย์
ทรงเกื้อกูล ผืนไผทม-ไหศวรรย์
เครื่องหมายศักดิ์ สูงส่ง องค์ราชัน
คือมิ่งขวัญ เหนือเกล้า เหล่าประชา



อันสามี มีแล้ว ดุจแก้วเกศ
ให้งามเนตร เกื้อหนุน ในคุณค่า
ชื่อว่าหญิง ยิ่งสวย ด้วยภรรดา
เชิดชูหน้า คุ้มครอง ป้องราคิน

สิ่งเห็นอยู่ คู่เสริม  เพิ่มความหมาย
ส่อแยบคาย ให้ตระหนัก ประจักษ์สิ้น
คำโบราณ ท่านเอ่ย เคยได้ยิน
อย่าชาชิน มองข้าม ความสำคัญ

โลกมายา  เวียนผ่านมา  พาเรียนรู้
เฝ้าตามดู  กายในจิต ชีวิตขวัญ
มีพึ่งพิง อิงโอบขวัญ  กันและกัน
เพียงรอวัน ละร่างใจ เลิกไหวครวญ

~ paer-aksorn ~

วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

*ป๋วย อึ้งภากรณ์



วิสัยบัณฑิตผู้-ทรงธรรม์
ไป่เปลี่ยนไป่แปรผัน-ไป่ค้อ
ไป่ขึ้นไป่ลงหน-กลับกลอก
กายจิตวาทะพร้อม-เพียบด้วยสัตยา

อรุณสวัสดิ์ค่ะทุกท่าน

*ป๋วย อึ้งภากรณ์